เคยสงสัยไหมว่าทำไมในช่วงที่อากาศแย่และการกลับมาของฝุ่น
PM 2.5 ในแต่ละปี ทำไมปัญหาผิวต่าง ๆ จึงเกิดขึ้นอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว
นอกจากฝุ่น PM 2.5 จะเป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่าเป็นตัวการทำลายสุภาพในระบบทางเดินหายใจ
แต่อีกสิ่งหนึ่งที่มันกลับทำร้ายได้ไม่แพ้กัน คือ ‘ผิวหนัง’
นั่นเอง
ไม่ใช่แค่การกล่าวอ้างถึงสรรพคุณอันน่ากลัวของมัน แต่มีการศึกษาหลายฉบับที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลกระทบจากฝุ่น PM 2.5 ที่มีผลต่อผิวหนัง โดยผิวหนังนั้นเป็นปราการด่านแรกของร่างกายที่ต้องเผชิญกับฝุ่นจิ๋วนี้โดยตรง นอกจากนี้ฝุ่นที่ว่ายังมีอนุภาคเล็กซึ่งสามารถเข้าสู่ผิวหนังได้และตรงเข้าทำร้ายผิวได้ในทันที สำหรับใครที่มีปัญหาเกี่ยวกับภูมิแพ้ผิวหนังเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จะยิ่งทวีรับผลกระทบจาก ฝุ่น PM 2.5 อย่างเห็นได้ชัดเลยทีเดียว
ฝุ่น PM 2.5 ทำร้ายผิวอย่างไรบ้าง ?
- ผิวหนังอักเสบ
ระคายเคือง เจ้าฝุ่นนี้สามารถเข้าไปทำลายเซลล์ผิวหนังกำพร้า
ซึ่งอาจเกิดอาการแพ้ ผิวเป็นผื่นแดง เป็นขุยแห้ง รวมทั้งระคายเคืองด้วย
โดยคนที่เป็นภูมิแพ้ผิวอักเสบอยู่แล้วอาจมีอาการกำเริบขึ้นอย่างชัดเจน
- ผิวเหี่ยวดูไม่สดใส ซึ่งฝุ่น PM 2.5 เป็นส่วนหนึ่งในการทำลายสารต้านอนุมูลอิสระทั้งในเซลล์ผิiวชั้นนอกและชั้นใน ทำให้เซลล์ผิวเสื่อมเร็วมีผลให้ผิวแก่ไว ผิวดูแห้งเหี่ยวไม่อิ่มสดใส
อีกทั้งทำให้ริ้วรอยเกิดขึ้นด้วย
- ฝ้า
กระ จุดด่างดำเกิดง่าย กับแสงแดดโดยปกติก็สร้างผลกระทบที่มากพอแล้ว
ผิวสามารถเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำได้ง่ายขึ้นอีกเมื่อเจอฝุ่น PM 2.5 เนื่องจากผิวเสื่อมสภาพเร็วและมีเกราะป้องกันที่ไม่มากพอ
- เสี่ยงสิวอุดตัน
แม้ไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้เกิดสิวโดยตรง
แต่ก็เป็นปัญหาสะสมที่ทำให้เกิดสิวขึ้นได้
เนื่องจากเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพบวกกับสภาวะผิวที่อ่อนแอเป็นผลพวงจากฝุ่น PM 2.5 ขัดวางกระบวนการผลัดเซลล์ผิว
ซึ่งทำให้รูขุมขนอุดตันเสี่ยงเกิดสิวได้ง่ายขึ้น
ดูแลผิวอย่างไรในสภาวะฝุ่น PM 2.5 ?
- ดูแลผิวหน้าให้สะอาด
ทำความสะอาดผิวหน้าอย่างสม่ำเสมอ โดยล้างทำความสะอาดวันละ 2 ครั้ง
เพื่อชำระล้างสิ่งสกปรกและฝุ่นที่อาจอุดตันรูขุมขนได้
- ดื่มน้ำเปล่าให้เหมาะสม
ฝุ่น PM 2.5 มีผลทำให้ผิวแห้งขาดน้ำจึงควรดื่มน้ำให้เพียงพอต่อวันเพื่อหล่อเลี้ยงผิวให้ชุ่มชื้น
รวมทั้งช่วยให้เลือดไหลเวียนดีหล่อเลี้ยงเซลล์ผิวให้แข็งแรง
- ทานอาหารเสริมสารต้านอนุมูลอิสระ
เพราะร่างกายต้องเจออนุมูลอิสระที่มีสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากฝุ่น
จึงควรเสริมสารต้านอนุมูลอิสระเพิ่มซึ่งสามารถรับได้จากอาหารอย่างผัก ผลไม้ หรือวิตามินซี
อี ช่วยให้เซลล์แข็งแรงลดการเสื่อมสภาพไวจากอนุมูลอิสระ
- นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ
เพื่อให้ร่างกายได้มีช่วงเวลาที่ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอรวมไปถึงเซลล์ผิวที่ถูกฝุ่น
PM 2.5 ทำร้ายด้วย
- ปกป้องผิวด้วยสกินแคร์ เนื่องจากผิวถูกรบกวนจากฝุ่นจนทำให้เกิดหลากปัญหาผิว
ควรหาตัวช่วยเสริมอย่างผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีความเหมาะสมกับสภาพผิว
ซึ่งช่วยสร้างเกราะป้องกันจากมลภาวะ พร้อมทั้งลดอาการระคายเคืองจาก PM 2.5 ได้ เช่น
ครีมกันแดด และมอยเจอไรเซอร์