Articles

cover

Retinol

24 November 2025

 

เข้าใจ เรตินอลเคล็ดลับผิวสวยที่ไม่ใช่แค่ตามเทรนด์

ต้องยอมรับว่าในช่วงไม่กี่ปีมานี้สำหรับเรื่องงานผิว สิ่งที่ถูกพูดถึงและอยู่ในกระแสมาอย่างยาวนาน คงมองข้ามไปไม่ได้เลย กับสารสำคัญที่เราเรียกกันว่า เรตินอล’ (Retinol) ดาวเด่นในวงการสกินแคร์จนหลายแบรนด์ต้องปรับตัว ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีส่วนผสมเรตินอลกันแทบทุกคอลเลกชัน ขณะเดียวกันเหล่าอินฟลูเอนเซอร์และผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังก็ออกมาแนะนำอย่างต่อเนื่อง จนหลายคนอยากลองตามกระแส

แต่จะมีคนสักกี่เปอร์เซ็นต์ที่รู้จักและเข้าใจเจ้าสาร เรตินอลนี้จริง ๆ และอันที่จริงแล้วเรตินอลไม่ใช่แค่เทรนด์ชั่วคราว บทความนี้จะพาคุณมาทำความรู้จักส่วนผสมทรงพลังตัวนี้ให้ลึกขึ้นว่า ทำไมมันถึงเป็น เคล็ดลับผิวสวยที่ได้ผลจริง

 

เรตินอลคืออะไร? มาทำความเข้าใจกันแบบง่าย ๆ

เรตินอล (Retinol) คือ รูปแบบหนึ่งของวิตามินเอที่จัดอยู่ในกลุ่มเรตินอยด์ (Retinoids) ที่มีคุณสมบัติกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวและเร่งการสร้างคอลลาเจนตามธรรมชาติ ซึ่งเป็นสารที่วงการแพทย์ผิวหนังใช้มานานเพื่อลดริ้วรอยและรักษาปัญหาผิวต่าง ๆ แม้จะเป็นส่วนผสมที่ทรงพลัง แต่ก็ต้องใช้ให้ถูกวิธีเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและลดความเสี่ยงต่อการระคายเคือง

 

 

 

ประโยชน์ของเรตินอล ที่ใครต่างก็สนใจ

       ผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน: ช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ และเร่งกระบวนการผลัดเซลล์ผิวเก่าที่เสื่อมสภาพ ทำให้ผิวชั้นบนเรียบเนียนขึ้น ดูสดใสไม่หมองคล้ำ

       ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ: ลดการเกิดจุดด่างดำ ฝ้า กระ และรอยดำจากสิว โดยเข้าไปยับยั้งกระบวนการสร้างเม็ดสีผิว (Melanogenesis) ทำให้ผิวโดยรวมดูกระจ่างใสและสีผิวสม่ำเสมอ

       ชะลอและลดเลือนริ้วรอย: เรตินอลกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิว ทำให้โครงสร้างผิวแข็งแรงขึ้น ส่งผลให้ริ้วรอยตื้น ริ้วรอยลึกดูจางลง ผิวมีความยืดหยุ่นและเต่งตึงขึ้น

       ลดปัญหาสิวและรูขุมขน: ช่วยลดการอุดตันของรูขุมขน ลดการอักเสบ และควบคุมการผลิตน้ำมันส่วนเกิน ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดสิว

 

 

 

วิธีใช้เรตินอลแบบปลอดภัยและไม่ทำร้ายผิว

  1. เริ่มจากความเข้มข้นต่ำ: สำหรับผู้เริ่มต้น ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีความเข้มข้นต่ำ (เช่น 0.1 - 0.3%) สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ให้ผิวปรับตัว จากนั้นจึงค่อย ๆ เพิ่มความถี่จนสามารถใช้ได้ทุกคืน และเพิ่มความเข้มข้น
  2. ใช้แค่กลางคืนเท่านั้น: เรตินอลไวต่อแสงแดด การใช้ตอนกลางคืนจะช่วยให้สารออกฤทธิ์ได้เต็มที่ และควรทามอยส์เจอไรเซอร์ตามด้วยเสมอ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการระคายเคือง
  3. เลี่ยงการใช้ร่วมกับสารที่อาจระคายเคือง: เช่น AHA, BHA หรือวิตามินซีความเข้มข้นสูง
  4. ห้ามลืมครีมกันแดด: การใช้เรตินอลทำให้ผิวไวต่อแสงแดดมากขึ้น การทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไปในตอนเช้าเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ ไม่ว่าจะใช้เรตินอลหรือไม่ก็ตาม

 

 

 

เรตินอล (Retinol) ได้พิสูจน์แล้วว่าไม่ใช่แค่เทรนด์ดูแลผิวที่เป็นกระแสอย่างฉาบฉวย แต่คือสารบำรุงผิวที่ให้ผลลัพธ์จริงในระยะยาว และด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยี ทำให้ปัจจุบันมีอนุพันธ์ของเรตินอยด์ที่ถูกพัฒนาให้มีประสิทธิภาพสูงพร้อมความอ่อนโยน ใช้งานง่าย เหมาะกับคนหลากหลายสภาพผิวมากกว่าเดิม อย่างเช่นนวัตกรรมที่ทำมาในรูปแบบ Liposome ซึ่งเป็นเหมือนถุงทำหน้าที่ค่อย ๆ ปล่อยตัวยาหรือสารสำคัญ มีความระคายเคืองน้อย ซึมเข้าสู่ผิวหนังได้ดี จึงให้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น และอาจใช้ได้ทั้งเช้า-เย็น

 

สำหรับใครที่สนใจเริ่มต้นใช้เรตินอล สิ่งสำคัญคือการเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับผิวของตัวเอง และใช้ภายใต้คำแนะนำที่ถูกต้อง ทั้งเรื่องความเข้มข้น ปริมาณ และความถี่ในการใช้ โดยเฉพาะผู้เริ่มต้นหรือผู้ที่มีผิวบอบบาง การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหรือแพทย์ผิวหนังจะช่วยให้เริ่มต้นได้อย่างมั่นใจ ปลอดภัย และเห็นผลลัพธ์ได้ดีที่สุดในระยะยาว

 

 

Related article

cover
08 November 2025

Cryolipolysis

 ‘จัดการไขมันด้วยความเย็น’ ตัวช่วยลดสั

cover
23 September 2025

7 เรื่อง เร่งริ้วรอยวัย 40+

7 เรื่องเร่งริ้วรอยที่วัย 40+ ควรเลี่ยง ในย

cover
13 September 2025

Program Ultherapy

30+ ผิวเริ่มหย่อนคล้อย ทำไมเลือก Program Ultherapy ถึงจบ