คุณเคยเสียความมั่นใจเพราะกลิ่นตัวบ้างไหม แม้จะใช้โรลออนหรือพรมน้ำหอมแล้วแต่ยังกลบกลิ่นตัวไม่ได้ ยิ่งช่วงหน้าร้อนที่ทำให้เหงื่อออกง่าย ยิ่งทำให้เกิดความกังวลกับกลิ่นตัวเพิ่มขึ้นอีก และสำหรับบางคนอาจมีกลิ่นตัวที่แรงมากกว่าคนทั่วไป อะไรคือปัจจัยที่ทำให้กลิ่นตัวแรง และมีวิธีแก้ไขอย่างไรบ้าง? บทความนี้มีคำตอบ…
อะไรคือสาเหตุที่ทำให้กลิ่นตัวแรงขึ้น ?
เราทุกคนล้วนมีกลิ่นตัวกันเป็นปกติอยู่แล้ว โดยกลิ่นจะเกิดขึ้นจาก 2 ต่อมสำคัญ คือ ต่อมที่อยู่บนผิวหนัง ทำหน้าที่ผลิตเหงื่อ
และต่อมที่อยู่บริเวณที่มีขนขึ้นเป็นจำนวนมาก นั่นคือรักแร้เจ้าปัญหา
โดยต่อมบริเวณนี้จะผลิตของเหลวออกมา
เมื่อสารในของเหลวนั้นสัมผัสกับแบคทีเรียที่อยู่บริเวณผิวภายนอก
จะทำให้เกิดกลิ่นขึ้นนั่นเอง แต่ประเด็นสำคัญมันไม่ได้หยุดเพียงเท่านี้ เพราะกลิ่นตัวสามารถส่งกลิ่นแรงได้มากขึ้นเมื่อมีปัจจัยเหล่านี้เข้ามา
- การรับประทานอาหารที่มีรสจัด หรือกลิ่นแรง
- น้ำหนักเกินมาตรฐาน ทำให้เกิดเหงื่อง่ายกว่าคนทั่วไป
- การมีภาวะเครียด
โดยส่งผลให้ของเหลวที่ถูกขับออกมาดึงดูดแบคทีเรียได้มากกว่า
- ยารักษาโรคบางชนิด
ที่มีผลทำให้ร่างกายขับเหงื่อมากกว่าปกติ เช่น ยารักษาภาวะซึมเศร้า
วิธีแก้ปัญหากลิ่นตัวแรง
- รักษาสุขอนามัยให้มากขึ้น ดูแลความสะอาดของร่างกาย
โดยอาบน้ำวันละ 2 ครั้ง
หลังจากชำระร่างกายแล้ว ควรเช็ดตัวด้วยผ้าสะอาดให้แห้ง
ไม่ควรสวมเสื้อผ้าทับในขณะที่ร่างกายเปียกหรือชื้นมากจนเกินไป
เพราะเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค
- ดูแลความสะอาดของรักแร้ ขณะอาบน้ำควรชำระล้างบริเวณรักแร้ให้สะอาด
ใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายเป็นอีกหนึ่งตัวช่วย
นอกจากนี้สำหรับคนที่มีปัญหากลิ่นตัวแรงจนแก้ยาก อาจเลือกวิธีกำจัดขนรักแร้
เพื่อลดแหล่งสะสมของเหงื่อและแบคทีเรีย
- ลดอาหารบางประเภทลง เช่น
อาหารที่มีรสจัดมากหรือมีกลิ่นแรง อย่างพวกเครื่องเทศต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น
กระเทียม พริกไทย ทุเรียน และสะตอ เป็นต้น
- ลดเหงื่อด้วยโบท็อกซ์ อีกหนึ่งวิธียอดนิยมในการลดเหงื่อ
สาเหตุของกลิ่นตัว โดยช่วยยับยั้งการทำงานของต่อมเหงื่ออย่างปลอดภัย
ให้ผลลัพธ์อยู่นานประมาณ 6-8 เดือน
เหมาะสำหรับคนที่มีเหงื่อออกมาก มีกิจกรรมหรือเข้าสังคมบ่อย
โบท็อกซ์ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้สามารถทำ Activity ต่าง
ๆ ได้อย่างยาวนานโดยไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นตัว
‘กลิ่นตัวแรง’ ปัญหาที่ปล่อยไว้ยิ่งทำลายความมั่นใจ
โดยวิธีการลดเหงื่อและกลิ่นตัวที่ง่ายและให้ผลลัพธ์ชัดเจน คือ ‘การฉีดโบท็อกซ์’ แต่สำหรับใครที่ลองแก้ปัญหากลิ่นตัวด้วยตัวเองอย่างไรก็ไม่ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น
ควรเข้าปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาที่ถูกต้อง
พร้อมทั้งมีความเหมาะสมกับปัญหาของแต่ละบุคคล