Articles

cover

รวมวิธีลดรอยตีนกาที่คุณหมอแนะนำ เคล็ดลับเด็ดทำแล้วได้ผลจริง

23 May 2022

รอยตีนกาหรือริ้วรอยบริเวณหางตาปัญหานี้คุณเริ่มกังวลกับมันตั้งแต่ตอนไหน? สำหรับบางคนรอยตีนกาอาจปรากฎชัดเจนขึ้นขณะยิ้มหรือหัวเราะ และที่ทำให้หมดความมั่นใจคงเป็นรอยตีนกาที่ปรากฎตลอดเวลาแม้ไม่ได้แสดงอารมณ์ทางสีหน้าใด ๆ ปัญหาริ้วรอยนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร บางคนอายุเท่ากันแต่เกิดริ้วรอยก่อน มาหาสาเหตุและวิธีแก้กับบทความนี้กัน

 

รอยตีนกาเกิดจากอะไร? 

  • อายุที่เพิ่มขึ้น เมื่ออายุเพิ่มขึ้น จำนวนคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิวลดน้อยลง ทำให้ผิวขาดความยืดหยุ่น หย่อนคล้อย จึงเกิดริ้วรอยชัดขึ้น
  • การแสดงสีหน้า เช่น การยิ้ม หัวเราะ เครียด โดยการแสดงสีหน้าเหล่านี้เป็นประจำ มีผลทำให้กล้ามเนื้อเล็กบริเวณหางตาหดตัวจนเกิดเป็นรอยตีนกา
  • เผชิญแสงแดด โดย UV ในแสงแดดส่งผลต่อคอลลาเจนและอีลาสตินที่มีบทบาทสร้างความยืดหยุ่นให้กับผิวเสื่อมสภาพไว
  • ปัจจัยอื่น ๆ  เช่น กรรมพันธุ์ การทานอาหารรสหวานประจำ การสูบบุหรี่ และการดื่มแอลกอฮอล์ เป็นต้น โดยพฤติกรรมเหล่านี้ล้วนเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดรอยตีนกาเร็วขึ้น

 

 

รักษารอยตีนกาด้วยวิธีไหนได้ผลจริง?

  • ฟิลเลอร์ เป็นการฉีดสารเติมเต็มเข้าสู่ผิวบริเวณที่เกิดริ้วรอย โดยเป็นสารธรรมชาติที่เรียกว่า Hyaluronic Acid หรือ เรียกว่า HA มีคุณสมบัติช่วยพยุงและเก็บความชุ่มชื่นให้กับผิว จึงช่วยให้รอยตีนกาหายไปทันทีหลังทำ ซึ่งผลลัพธ์สามารถอยู่ได้ยาวนานประมาณ 1 - 2 ปี ขึ้นอยู่กับฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ และการดูแลตัวเองรวมถึงสภาพผิวของแต่ละบุคคล 

  • โบท็อกซ์ อีกหนึ่งวิธีที่ได้รับความนิยมในการลดรอยตีนกา โดยเป็นการฉีดสารสกัดจากโปรตีนธรรมชาติไปยังจุดที่ต้องลดริ้วรอย ซึ่งช่วยให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นคลายตัว ส่งผลให้ริ้วรอยคลี่ออก ผลลัพธธ์จากการฉีดโบท็อกซ์สามารถคงอยู่ได้ประมาณ 3 - 6 เดือน ขึ้นอยู่กับโบท็อกซ์ที่เลือกใช้ รวมทั้งการดูแลผิวของแต่ละบุคคลด้วย

  • ทรีตเมนต์ โดยเป็นทรีตเมนต์ที่มีนวัตกรรมกระตุ้นคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิว ช่วยทำให้โครงสร้างผิวกลับมายืดหยุ่น ตึงกระชับ ซึ่งทรีตเมนต์ที่มีประสิทธิภาพในการลดรอยตีนกาที่แนะนำ คือ Thermage FLX เป็นการนำเทคโนโลยีความถี่คลื่นวิทยุมาใช้ลดริ้วรอย และ Ultherapy เป็นการการยกกระชับผิวด้วยคลื่นเสียงโดยสามารถส่งพลังงานได้ลึกถึงชั้นผิวชั้นเดียวกับที่ศัลยแพทย์ใช้ในการผ่าตัดดึงใบหน้า 

 

 

5 วิธีป้องกันรอยตีนกา

  1. ปกป้องผิวจากแสงแดด โดยทาครีมกันแดดก่อนออกนอกบ้านอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งเลี่ยงการเผชิญแสงแดดแรง เพราะนอกจากอันตรายของรังสี UV แล้ว เมื่อต้องใช้สายตากลางแจ้ง จะต้องหรี่ตาและเพ่งสายตามากกว่าปกติ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสาเหตุทำให้เกิดรอยตีนกา
  2. เลือกทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ เนื่องจากอายุที่เพิ่มขึ้นรวมทั้งสภาวะแวดล้อมทำให้เกิดอนุมูลอิสระในร่างกายสาเหตุที่ทำให้ผิวเสื่อมสภาพเร็ว โดยสามารถรับสารต้านอนุมูลอิสระง่าย ๆ จากผักและผลไม้หลากสี อาทิ บร็อคโคลี คะน้า แครอท มะเขือเทศ ฟักทอง และมะละกอ เป็นต้น
  3. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ อีกหนึ่งหัวใจสำคัญที่อยู่เบื้องหลังชะลอการเกิดริ้วรอยรวมถึงรอยตีนกา โดยช่วยส่งเสริมกระบวนการผลิตคอลลาเจน ซึ่งมีบทบาทช่วยให้ผิวหนังยืดหยุ่นกระชับ นอกจากนี้การออกกำลังกายยังส่งผลดีต่อระบบไหลเวียนเลือด ช่วยให้พิวพรรณเปล่งปลั่งมีสุขภาพดี
  4. ลดการสัมผัสผิวบริเวณรอบดวงตา เช่น ไม่ขยี้หรือถูตาแรง ทาสกินแคร์และแต่งหน้าบริเวณรอบดวงตาด้วยความอ่อนโยนเพื่อลดการรบกวนผิว นอกจากนี้ควรลดพฤติกรรมการแสดงสีหน้าเครียด ขมวดคิ้ว และการเพ่งสายตาที่มากเกินไป
  5. ดื่มน้ำให้เพียงพอ โดยน้ำเป็นตัวช่วยให้ผิวคงความชุ่มชื้นและเต่งตึง หากผิวขาดน้ำจะส่งผลให้เกิดความแห้งกร้าน นำมาซึ่งการเกิดริ้วรอยได้โดยง่าย นอกจากนี้น้ำยังช่วยขับสารพิษและของเสียต่าง ๆ ออกจากร่างกาย ซึ่งเป็นการส่งเสริมให้ร่างกายสามารถซ่อมแซมเซลล์ผิวได้อย่างมีประสิทธธิภาพ

 

แม้ปัจจุบันจะมีนวัตกรรมและวิธีการลดรอยตีนกาเกิดขึ้นมากมาย แต่ผลสุดท้ายแล้วก็ไม่สามารถหยุดการเกิดริ้วรอยเหล่านี้ได้อย่างถาวร สิ่งสำคัญที่สุด คือ การดูแลผิวรวมทั้งสุขภาพภายในให้ดีอยู่เสมอ เพื่อทั้งป้องกันและชะลอการเกิดริ้วรอยต่าง ๆทุกสิ่งจะดีขึ้นได้เริ่มจากการที่เรารักตัวเอง

Related article

cover
23 February 2024

ถาม-ตอบ ไขข้อสงสัยฮิต ฉีด Filler และทำ Laser | ศรินยา คลินิก เชียงใหม่

ถาม-ตอบ ไขข้อสงสัยฮิต ฉีด Filler และทำ Laser | ศรินยา

cover
02 February 2024

เลเซอร์เส้นเลือดขอด รอยแตกลาย รักษาวิธีไหนดี

เลเซอร์เส้นเลือดขอด รอยแตกลาย รักษาวิธีไห